หลักการจัดสวนประหยัดพลังงาน สวนบ้านเดี่ยว สวนคอนโด สวนหอพัก สวนทาวน์เฮาส์ สถานการณ์
น้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกคน
ทุกหน่วยงานต่างออกมารณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดน้ำมัน ประหยัดไฟ
ตัวเราเองก็สามารถช่วยประหยัดไฟได้
และสามารถประหยัดไปได้เรื่อยๆ โดยเราไม่รู้ตัว วิธีที่ว่านี้คือการทำบ้านเราให้เย็น โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ แต่ใช้ต้นไม้เข้ามาช่วย วิธีการก็ง่ายแสนง่าย เช่น ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมภายในบ้านใหม่ ปลูกต้นไม้บังแดด ปลูกต้นไม้หรือไม้เลื่อยตามระเบียงรั้ว เพื่อลดความร้อนที่จะเข้ามาในบ้าน ปลูกต้นไม้คลุมดิน ปลูกหญ้าเพื่อเพิ่มความชื้น เท่านี้เองก็สามารถช่วยเราประหยัดไฟ ประหยัดเงินในกระเป๋า และลดความเสื่อมของเครื่องปรับอากาศบ้านเราด้วย
ความรู้เกี่ยวกับการจัดสวน
ประโยชน์จากการจัดสวน
- ทำ ให้บ้านของเราสวยงามน่าอยู่ ไม่จำเป็นต้องออกไปหาความสบายนอกบ้าน เป็นที่ชื่นชมของผู้ที่ผ่านไปมา เป็นสง่าราศีแก่บ้าน และผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านนั้น
- ในทางตรงกันข้ามหากบริเวณบ้านของท่านรกรุงรัง นอกจากไม่เป็นที่ชื่นชมแล้ว ยังอาจเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษอีกด้วย
- เป็น ที่พักผ่อนหย่อนใจ คลายเครียด การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สดชื่นด้วยไม้ดอก ไม้ใบ ทำให้จิตใจ ชุ่มชื่น ผ่อนคลายความเครียดจากการงานได้มากทีเดียว
- เกิด ความสัมพันธ์ในครอบครัว การที่คนในครอบครัวช่วยกันทำสวน ดูแลสวนร่วมกันทำให้ได้ พบปะสนทนา เป็นการเพิ่มความรักความใกล้ชิดในครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น
- ประหยัด พลังงาน สวนช่วยให้เกิดความร่มรื่น การปลูกต้นไม้บังบ้านด้านที่รับแดด ผนังก็จะไม่ร้อนส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ไม่ต้องพึ่งพาพัดลมทำให้ประหยัด พลังงานภายในบ้าน จากงานวิจัยพบว่า ต้นไม้ขนาดใหญ่ 1 ต้น จะช่วยให้อุณหภูมิลดลงประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดความร่มรื่นเย็นสบาย เมื่อเวลาเราเดินในสวนสาธารณะ
- ต้นไม้ สามารถให้ร่มเงาแก่พื้นคอนกรีต ทำให้ความร้อนไม่สะสมอยู่ในพื้น เมื่อลมพัดผ่านก็จะไม่นำความร้อนเข้ามาสู่บ้าน ทำให้บ้านเย็นสบาย
- ความ เป็นส่วนตัวและเป็นการป้องกัน ในกรณีที่ท่านปลูกต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้เหล่านั้นสามารถป้องกันแสงสว่างจากถนน หรือยวดยานที่ผ่านไปมาและส่องแสงรบกวนผู้อยู่อาศัย สามารถลดเสียงรบกวนจากรถยนต์และจักรยานยนต์ จากภายนอก
- ได้ออกกำลังกาย การดูแลสวน รดน้ำ พรวนดิน ตกแต่งกิ่งไม้ กวาดใบไม้ เป็นการออกกำลังกายและผักผ่อนจิตใจได้อีกอย่าง
- กรอง ฝุ่นละอองที่กระจายทั่วๆไป เพื่อกรองฝุ่นละอองที่กระจายทั่วๆไปในอากาศและฝุ่นละอองจากถนนไม่ให้เข้ามา ในบ้านโดยเลือกใช้พรรณไม้ที่สามารถเก็บฝุ่นละอองได้มากเช่น สนทะเล, สนประดิพัทธ์
- จัดแต่งบางตำแหน่งของสวนเพื่อปิดบังสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะของบริเวณใกล้เคียง
- เป็น แหล่งอาหาร ในกรณีที่ท่านปลูกต้นไม้ที่ให้ผล หรือเป็นพืชผักสวนครัว ต้นไม้เหล่านั้นสามารถให้ผล หรือส่วนต่างๆ เป็นอาหาร แก่ท่านได้ ซึ่งนอกจากไม่ต้องซื้อหาจากนอกบ้านแล้ว ท่านยังมั่นใจได้ว่าจะได้รับประทานอาหาร ที่ปราศจากยากำจัดแมลงอย่างแท้จริงอีกด้วย
- เป็น สวนสมุนไพร ภายในบ้าน ซึ่งในปัจจุบัน เริ่มได้รับความความสนใจกันมาก สมุนไพรหลายชนิดที่ใช้เป็นยาสามัญประจำบ้าน นิยมเอามาจัดแต่งสวน หรือ ปลูกทำรั้วบ้าน
หลักการและแนวคิดในการจัดสวน
- สำหรับ ผู้ที่ไม่มีพื้นความรู้ด้านศิลปะ อาจลังแลในการจัดวางองค์ประกอบในสวน แต่ถ้าศึกษาด้วยตนเองหรือจดจำจากตัวอย่างในหนังสือเกี่ยวกับสวน ไม่ช้าก็สามารถเรียนรู้จากการทดลองทำ เริ่มจากสวนในบ้านของตัวเอง เป็นการฝึกจะพบว่าไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่สำคัญ คือ การเลือกพันธุ์ไม้ที่มีธรรมชาติ หรือความต้องการ ดิน น้ำ แสง เหมือนๆ กัน มาปลูกรวมกัน ต้นไม้ก็จะอยู่รอดอย่างงดงามได้
- สิ่ง สำคัญอันดับต่อไปคือ การจัดการเรื่องระบบรดน้ำ และระบบระบายน้ำ จัดให้มีก๊อกน้ำเพียงพอและสะดวกในการรดน้ำ ทำรางระบายน้ำ ป้องกันการเกิดน้ำท่วมขัง
- การ บำรุงรักษาต้องสม่ำเสมอ มีการให้ปุ๋ยทุกๆ เดือน และไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว ควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นส่วนมากเพราะจะทำให้ดินไม่แข็งเป็นก้อน ควรหลีกเลี่ยงยาฆ่าแมลง หากไม่จำเป็น หรือใช้ยาฆ่าแมลงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น สะเดา
- สวน ที่ดีต้องมีความปลอดภัยทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนั้น ควรมีแสงสว่างเพียงพอในยามค่ำคืน เพื่อป้องกันทรัพย์สินและสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ทางเดินในสวนควรใช้ วัสดุที่ไม่เรียบจนลื่น ไม่หยาบจนเดินลำบาก
"หลักการที่แนะนำนี้ใช้ได้กับสวนทุกประเภท"
หลักการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะกับทิศ
ทิศ เหนือ
- ถ้า หากอาคารมีความสูงมากกว่าหนึ่งชั้น หรือ ประมาณ 6 เมตร เงาของบ้านจะทำให้ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ใกล้บ้านได้รับแสงแดดน้อยหรือไม่ได้รับ แสงเลย ควรเลือกพันธุ์ไม้ที่ชอบร่มรำไร เช่น จั๋ง สาวน้อยประแป้ง เขียวหมื่นปี พลูชนิดต่างๆ และพันธุ์ไม้ ประเภทไม้ใบอยู่ในที่ร่มได้
- สำหรับ พันธุ์ไม้คลุมดิน ที่ชอบร่ม ได้แก่ พลูเลื้อยต่างๆ พลูกำมะหยี่ พลูทอง เฟิน สวีดีชไอวี่ ดีปลี ไม้ตระกูลหนวดปลาดุก เปปเปอร์ และลิ้นมังกรชนิดต่างๆ
ทิศ ใต้
- เป็น ทิศที่แดดเข้าตลอดวัน และเกือบตลอดปี เพราะประเทศไทยพระอาทิตย์อ้อมใต้เป็นเวลานาน การใช้ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา จึงเป็นทางป้องกันอย่างหนึ่ง
- ดัง นั้นพันธุ์ไม้ที่เลือกปลูกจึงควรมีใบทึบข้างบนและโปร่งด้านล่าง เพื่อให้ลมพัดผ่านเข้าบ้านได้ พันธุ์ไม้ที่ให้ร่มเงา และใบไม่ร่วงได้แก่ กระทิง สารภี มะฮอกกานี มะขาม แคแสด
- สำหรับพันธุ์ไม้ที่ให้ดอกสวยงาม แต่ผลัดใบทั้งต้นในบางฤดูได้แก่ กัลปพฤกษ์ กระพี้จั่น เสลา คูน หางนกยูง เหลืองอินเดีย เป็นต้น
- พันธุ์ไม้ดอกหอมที่ควรปลูกด้านนี้ได้แก่ จำปี จำปา บุหงาส่าหรี โมก พิกุล ประยงค์ แก้ว กันเกรา ปีป ตีนเป็ดน้ำ ลำดวน
ทิศ ตะวันตก
- ทิศ นี้ได้รับแดดจัดตลอดบ่าย ควรปลูกไม้ที่ให้ร่มเงา อาจเป็นพันธุ์ไม้ที่ให้ดอกตามฤดูกาล เช่น เสลา คูน กัลปพฤกษ์ ประดู่แดง ประดู่อินเดีย พันธุ์ไม้ทิศนี้จะทำหน้าที่กันแดดช่วงบ่าย ซึ่งร้อนแรงทำให้ผนังบ้านด้านนี้เย็น และช่วยประหยัดพลังงานในเวลาค่ำคืน ซึ่งถ้าที่บ้านมีพื้นที่ไม่มากพอที่จะปลูกไม้ใหญ่ให้ร่มเงา อาจใช้อโศกอินเดีย หมากเขียว หมากเหลือง กล้วยพัด ก็เหมาะสมดี หากพื้นที่น้อยอาจใช้พันธุ์ไม้ไต่หรือเกาะผนัง เช่น ตีนตุ๊กแก ดีปลี หรือพลูบางชนิดก็ช่วยกันแดดได้ดีขึ้น
ทิศ ตะวันออก
- ทิศ นี้จะได้รับแดดครึ่งวัน หลังเที่ยงไปแล้วจะได้รับร่มจากตัวบ้าน ควรปลูกไม้ที่ไม่ต้องการแดดตลอดวัน เช่น ไผ่ (ใบจะร่วงน้อยถ้าได้แดดเช้า) หรือพันธุ์ไม้ที่มีใบละเอียด หรือใบเล็ก จะดูสวยงามมาก เมื่อมองผ่านแดดเช้า ได้แก่ ปีป เลี่ยน โมก พู่ชมพู มะขามป้อม หลิวจีน ชิงชัน ไผ่เลี้ยง อรพิม เป็นต้น
- ไม้พุ่มได้แก่ ฤษีผสม ซัลเวีย ปีโกเนีย พรมญี่ปุ่น เฟิน ไผ่แคระ ไม้ตระกูลใบเงิน ใบทอง ใบนาก และหมากผู้หมากเมีย
-
หน้า
บ้าน ควรเลือกพันธุ์ไม้ปลูกตามความเหมาะสมของทิศทางแดด ตัวเอย่างเช่น
ถ้าหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก แดดจะส่องเข้าบ้านแรงมากในตอนบ่าย
ควรปลูกต้นไม้ที่สามารถบังแดดได้เพื่อไม่ให้ผนังบ้านร้อน
ถ้าบ้านมีพื้นที่หน้าบ้านมากพอที่จะปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา เช่น พิกุล จำปี
ปีป ซึ่งการดูแลให้ต้นปีปมีใบดกแน่นต้องหมั่นให้น้ำ
มิฉะนั้นปีปจะมีใบโปร่งทำให้ได้ร่มเงาน้อย แต่ถ้าบ้านมีเนื้อที่น้อย
ควรปลูกต้นไม้ที่ไม่กินพื้นที่มากแต่สามารถทำให้ผนังบ้านได้ร่มเงา ได้แก่
ต้นไม้ตระกูลหมาก หรือปาล์ม บางชนิด เช่น หมากเขียว หมากเหลือง หมากนวล
เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีขนาดค่อนข้างกระทัดรัด
และรากไม่รบกวนโครงสร้างของอาคาร
-
ถ้า
หากหน้าบ้านหันทางทิศเหนือ หรือ ตะวันออก ปัญหาเรื่องแสงแดดจะน้อย
เพราะได้เงาของอาคารช่วยในตอนบ่าย ดังนั้นจะใช้ต้นไม้ขนาดเล็ก เช่น โมก
แก้ว หรือลำดวนก็ได้
-
หน้า
บ้านเป็นจุดที่ทุกคนต้องการให้สวย จึงควรจัดเป็นสวนหย่อม
และไม่ควรมีต้นไม้ที่ทึบมากจนมองไม่เห็นหน้าบ้าน หากมีใครไปใครมา
และการจัดสวนที่ให้สีสันบ้างจะให้บรรยากาศต้อนรับแก่ผู้มาเยือน
- การ ทำสนามหน้าบ้านนอกจากจะให้ความรู้สึกร่มรื่นแล้ว หญ้าจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้ดิน และช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตดีและให้ความเย็นแก่พื้นดินบริเวณบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น ซึ่งทำให้ช่วยลดการใช้แอร์ และพัดลมลงได้
สวน บ้านเดี่ยว
สวน ห้องชุด คอนโดมิเนียม
- สวนอาคารชุดจะมีลักษณะค่อนข้างถาวร เพราะผู้อยู่อาศัยเป็นเจ้าของ ดังนั้นการตกแต่งจึงไม่ต้องคำนึงถึงการโยกย้ายบ่อยๆ
- อาจมีการยกระดับตรงพื้นที่มีชุดนั่งเล่น กะบะต้นไม้อาจให้ใหญ่ขึ้น ทำโครงไม้ระแนงเพื่อใช้แขวนต้นไม้หรือปลูกไม้เลื่อย ถ้ามีแสงแดดพอ
- หากบริเวณนั้นมีแสงแดดน้อย ก็ไม่ควรเลือกต้นไม้ขนาดใหญ่เกินไป เพื่อการเคลื่อนย้ายให้ได้รับแสง
- ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องหรือไม้ ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความเหมาะสมของทิศทาง
สวน หอพัก
- ระเบียงของหอพัก โดยทั่วไปจะมีขนาดประมาณ 1.50x2.0 เมตร ค่อนข้างจะคับแคบ
- แต่ก็สามารถจัดให้เป็นที่พักผ่อน ได้ด้วยการจัดเก้าอี้และต้นไม้ให้ชิดข้างฝาจะทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น
- วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้จัดสวนหอพัก ควรมีน้ำหนักเบา ยกย้ายง่าย เพราะผู้ที่อยู่หอพักไม่ใช่เจ้าของที่ถาวรวัสดุที่มีน้ำหนักเบา
- ได้แก่ กระบะไม้ หรือกระถางพลาสติก หากใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ควรให้เป็นวัสดุชนิดเดียวกัน
- เพื่อให้กลมกลืนทั้งบริเวณ ต้นไม้ที่ใช้ควรดูแลง่าย สามารถอยู่ในที่ร่มรำไร ถ้าหากมีแสงแดดสาดถึงก็ใช้ไม้ดอกได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น